มาแม่แจ๋มนอกจากอาหารการกิน”จานเด็ดแม่แจ๋ม”แล้ว
มาถึงที่นี่ของฝากขึ้นชื่อที่ต้องไม่พลาดติดไม้ติดมือก็มีให้เลือกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ แมคคาเดเมีย ผักผลไม้เมืองหนาว ตลอดจนงานฝีมือของชุมชน
ผลิตภัณฑ์จากกาแฟ
ผลผลิตกาแฟสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง
นอกจากนำเมล็ดมาคั่วแล้วป่นเพื่อชงดื่มแล้วดอกกาแฟยังสามารถนำมาตากแห้งผลิตเป็นชาชงดื่มเพื่อสุขภาพได้อีกทางหนึ่ง
สำหรับเมล็ดกาแฟคั่วอาราบิกาแท้ ๑๐๐% ของที่นี่
หลายคนอาจเคยดื่มผ่านแบรนด์ของโครงการหลวง นอกจากนี้การพัฒนาแบรนด์ชุมชนก็ยังมีความโดดเด่นระดับโลกและหลายแบรนด์กำลังถูกพัฒนาให้เป็นกาแฟพิเศษของแจ้ซ้อน
จากหนุ่มชาวเชียงใหม่ที่ได้กลับมาปักหลักกับครอบครัวที่เป็นชาวแม่แจ๋มของ
“ศิวณัฐ กองไฝ” หรือ “แคท” นอกจากการปลูกกาแฟของครอบครัวแล้วเขายังได้พัฒนาและต่อยอดด้วยการเดินหน้าผลักดันการพัฒนาของคนในชุมชนซึ่งนำมาสู่การรวมกลุ่มจัดตั้งเป็น"วิสาหกิจชุมชนแปรรูปกาแฟ"
ในแต่ละปีมีการรับซื้อเมล็ดกาแฟจากชาวบ้านเฉลี่ย
๔๐-๖๐ ตัน จากผลผลิตของพื้นที่ปลูกกาแฟที่บ้านแม่แจ๋มที่มากกว่า ๓,๐๐๐ ไร่ เพื่อเปลี่ยนการปลูกแล้วขายให้กับพ่อค้านอกถิ่นมาเป็นการแปรรูปจากเมล็ดกาแฟมาเป็นกาแฟสด
ด้วยแบรนด์ “กาแฟดอยแม่แจ๋ม”
ผลิตภัณฑ์จากแมคคาเดเมีย
ประเทศไทยได้มีการนำทั้งเมล็ดและกิ่งพันธุ์จากต่างประเทศมาทดลองปลูกมานานแล้ว
ด้วยมะคาเดเมียสามารถเจริญเติบโตได้ดีบนพื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเล ๗๐๐ เมตรขึ้นไป ดังนั้น
บ้านแม่แจ๋มซึ่งมีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล ๑,๒๐๐ เมตร จึงเป็นอีกพื้นที่หนึ่งของภาคเหนือที่ปลูกแมคคาเดเมียได้อย่างเหมาะสม จนสร้างรายได้อย่างงอกงามให้แก่ชุมชน
จากผลิดอกจนติดผลแก่ร่วง อยู่ในระยะเวลา ๖-๘ เดือน ชุมชนจะเก็บผลผลิตในช่วงเดือนมีนาคม-สิงหาคม อายุของต้นตั้งแต่ ๑๐ ปีขึ้นไปจะให้ผลผลิตประมาณ ๒๐-๓๐ กิโลกรัม
จากผลิดอกจนติดผลแก่ร่วง อยู่ในระยะเวลา ๖-๘ เดือน ชุมชนจะเก็บผลผลิตในช่วงเดือนมีนาคม-สิงหาคม อายุของต้นตั้งแต่ ๑๐ ปีขึ้นไปจะให้ผลผลิตประมาณ ๒๐-๓๐ กิโลกรัม
เมล็ดแมคคาเดเมียอบแห้ง
ที่ชุมชนบ้านแม่แจ๋มมีสวนแมคคาเดเมีย”ราชาแห่งถั่วที่มีสุดยอดโปรตีน”อย่างแมคคาเดเมีย
ของชุมชนบ้านแม่แจ๋มมีหลากหลายแบรนด์ให้เลือกจับจ่าย
- กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแม่แจ๋ม แมคคาเดเมีย+กาแฟ
- แมคคาเดเมีย”ไร่สุวรรณ” โดยคุณลุงสุวรรณ มูลคำดี วัย ๖๙ ปี เกษตรกรผู้ปลูกแมคคาเดเมียและสวนผสมบนยอดเขาดอยแม่แจ๋ม มา ๒๐ กว่าปี บนเนื้อที่เกือบ ๑๐๐ ไร่ ที่เป็นสวนผสมมีทั้งลูกท้อ กาแฟ เชอรี่ และอื่นๆ อีกหลายชนิด ตลอดพจนแมคคาเดเมียกว่า ๙๐๐ ต้น ในจำนวนนี้ให้ผลผลิตแล้วกว่า ๓๐๐ ต้น สร้างรายได้จากการแปรูปและขายเองเกือบ ๑ ตันต่อเดือนโดยแบ่งขายตามขนาดแบบไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางอย่างเป็นกอบเป็นกำนับแสนบาทต่อเดือน ในราคากิโลกรัมละกว่า ๑,๐๐๐ บาทเลยทีเดียว
https://www.facebook.com/doimaejammacadamia
- แมคคาเดเมียตราสองพี่น้องคอฟฟี่แมค ๐๙๘ ๗๘๙ ๓๐๒๐
- แมคคาเดเมีย โดย กาแฟสดดอยแม่แจ๋ม
น้ำมันแมคคาเดเมีย 100%
เป็นการนำเมล็ดแมคคาเดเมียมาสกัดด้วยความเย็น ด้วยสรรพคุณของถั่วแมคคาเดเมียที่มีกรดไขมันอิ่มตัวเชิงเดี่ยวจะช่วยบำรุงให้ผิวนุ่มชุ่มชื้น
บำรุงผมที่เสียให้มีสุขภาพดีจากการฟื้นฟูเส้นผมที่หยาบและแห้งเสีย ให้ดูชุ่มชื้น อีกทั้งยังช่วยให้หนังศรีษะไม่แห้งอีกด้วย
ถ่านจากการเผาเปลือกของเมล็ดแมคคาเดเมีย
เมล็ดแมคคาเดเมียจะผ่านกระบวนการต่างๆ ตั้งแต่ เก็บผลสุก
ตากหรืออบแห้งหลังจากกะเทาะเปลือก และนำไปอบอีกครั้ง ส่วนของเปลือกที่ถูกกะเทาะออกจะไม่เป็นขยะสร้างภาระแก่ชุมชนเพราะจะถูกนำมาเผาเป็นถ่านช่วยดูดกลิ่นและจับอนุมูลอิสระได้ดี
ของฝากจากฝีมือชุมชนแม่แจ๋ม
นอกจากผลผลิตหลักอย่างกาแฟและแมคคาเดเมีย
ที่บ้านแม่แจ๋มจากมีผลผลิตอื่นๆที่น่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น ชาอู่หลง สมุนไพรเลือดมังกร น้ำผึ้งธรรมชาติ
และผลิตภัณฑ์งานฝีมือของชาวไทยภูเขาเผ่าต่างๆ อาทิ
- ตะกร้าหวาย
เป็นผลิตภัณฑ์งานฝีมือที่ขึ้นชื่อของชาวลาหู่ซึ่งทำมาจากไม้ไผ่ข้าวหลามที่ต้องตัดในช่วงวันแรม
๘ ค่ำ เพราะทำให้ไม่มีมอดหรือแมลงต่างๆอยู่ในไม้ไผ่
-
ชาอู่หลง
-
สมุนไพรเลือดมังกร
-
น้ำผึ้งธรรมชาติ
- ผ้าทอส่งจำหน่ายศูนย์ศิลปาชีพ
เรียกได้ว่าสุดคุ้มสำหรับการท่องเที่ยวและปิดท้ายด้วยการจับจ่ายที่“บ้านแม่แจ๋ม”
ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาเยือนได้ตลอดปี เพราะแต่ละฤดูที่นี่จะมีบรรยากาศและ
ผลผลิตทางการเกษตรที่แตกต่างกันไป
- ผ้าทอส่งจำหน่ายศูนย์ศิลปาชีพ
เรียกได้ว่าสุดคุ้มสำหรับการท่องเที่ยวและปิดท้ายด้วยการจับจ่ายที่“บ้านแม่แจ๋ม”
ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาเยือนได้ตลอดปี เพราะแต่ละฤดูที่นี่จะมีบรรยากาศและ
ผลผลิตทางการเกษตรที่แตกต่างกันไป
0 ความคิดเห็น