เปิด ๑๕ โฮมสเตย์ “ที่พักหลักร้อย วิวหลักล้าน” ที่บ้านป่าเหมี้ยง

การหลอมรวมวัฒนธรรมจากรุ่นสู่รุ่นของวิถีชุมชนหลายชนเผ่าที่เก่าแก่มากว่า ๒ ศตวรรษ ประกอบกับธรรมชาติที่แสนอุดมบนพื้นที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ ๑,๒๐๐ เมตร ทำให้บ้านแม่เหมี้ยงกลายเป็นความร่มรื่นไร้มลพิษที่นักท่องเที่ยวต่างแสวงหา

จากนโยบายที่ภาครัฐสนับสนุนการท่องเที่ยวโดยประกาศให้ปี ๒๕๔๑-๒๕๔๒  เป็นปีท่องเที่ยวไทย (Amazing Thailand) กระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Ecotourism) คือ การท่องเที่ยวไปในแหล่งชุมชน เพื่อเข้าถึงวิถีชีวิต วัฒนธรรม หัตถกรรมของท้องถิ่น สิ่งที่ติดตามมา ก็คือ การใช้ที่พักซึ่งเป็นบ้านของคนในชุมชนเป็นศูนย์กลางของการจัดกิจกรรมด้านต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการเรียนรู้ของนักท่องเที่ยว หรือ “โฮมสเตย์” ดังนั้น โฮมสเตย์ จึงมีความหมายมากกว่าการเป็นที่พัก  

กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้นิยามความหมายของ "โฮมสเตย์" (Home Stay) ว่า หมายถึง ที่พักสัมผัสวัฒนธรรมชนบท คือบ้านพักที่อยู่ในชุมชนชนบทที่มีประชาชนเป็นเจ้าของบ้าน และประชาชน หรือสมาชิกในครัวเรือนอาศัยอยู่ประจำ และบ้านนั้นเป็นสมาชิกของกลุ่ม/ชมรม หรือสหกรณ์ที่ร่วมจัดกันเป็นโฮมสเตย์ในชุมชน โดยนักท่องเที่ยวเข้าพักร่วมกับเจ้าของบ้านได้และสมาชิกในบ้านมีความยินดีและเต็มใจที่จะรับนักท่องเที่ยว พร้อมทั้งถ่ายทอดประเพณี วัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่นแก่นักท่องเที่ยว และพานักท่องเที่ยวเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวและทำกิจกรรมต่างๆ เช่น เล่นน้ำตก ขี่จักรยาน นั่งเรือ เดินป่าศึกษาธรรมชาติ

การจัดที่พักและอาหาร ผนวกกับการนำเที่ยวภายในชุมชนโดยได้รับค่าตอบแทนตามความเหมาะสมจึงกลายเป็นส่วนสำคัญของการสร้างรายได้โดยมีคนในชุมชนร่วมกันรักษารากเหง้าและทรัพยากรให้คงอยู่เพื่อเป็นจุดดึงดูดให้ผู้คนแวะเวียนมาชื่นชมและพักผ่อนตามความชอบ

ชุมชนป่าเหมี้ยงได้ปรับตัวเพื่อต้อนรับแขกผู้มาเยือนจนพัฒนาไปสู่การจัดการของคนในชุมชน   มาตั้งแต่ปี ๒๕๔๕  โดยตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจโฮมสเตย์ชุมชนบ้านป่าเหมี้ยง  ภายใต้การสนับสนุนของ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ปัจจุบันมี ร.ต.ชุมพล เสนาวัต เป็นประธานกลุ่ม และมีโฮมสเตย์ที่เป็นสมาชิกทั้งสิ้น ๑๕ หลังคา(โฮมสเตย์) 

ทั้งนี้ สมาชิกของกลุ่มจะมีข้อตกลงร่วมกันในการกำหนดมาตรฐานการให้บริการ อาทิ

-     ราคาห้องพักเท่ากันหมด คือ ๓๐๐ บาท/คน/คืน ไม่รวมอาหาร) หรือจะเป็น ๔๕๐ บาท/คน/คืน จะรวมกับอาหารซึ่งเป็นอาหารพื้นบ้าน ๒ มื้อ (เช้า-เย็น)

-     เมื่อนักท่องเที่ยวสำรองห้องพักโดยตรงกับโฮมสเตย์ไม่ว่าจะหลังคาใดก็ตาม จะมีการนำเงินเข้าสมทบกับกลุ่ม ๓๐ บาทต่อคน ส่วนกรณีที่ติดต่อผ่านกลุ่มจะนำเงินเข้าสมทบเข้ากลุ่ม ๕๐ บาทต่อคน เพื่อนำเงินส่วนนี้กลับไปยังชุมชนในรูปแบบต่างๆ เช่น เป็นเงินปันผลให้กับสมาชิก(๔๐%)นำเงินให้กับหมู่บ้านเพื่อนำไปทำสาธารณะประโยชน์(๑๕%) สนับสนุนการศึกษาให้กับเด็กในชุมชน(๑๐%)และนำไปร่วมกิจกรรมภายในชุมชนในนามกลุ่ม(๕%) เช่น งานศพ งานการกุศลในหมู่บ้าน เป็นต้น

เพื่อบรรลุเป้าหมายการจัดระบบการท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมกาแฟพิเศษของชุมชนผู้ปลูกกาแฟในเขตตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง ของโครงการวิจัยการจัดการท่องเที่ยวเพื่อมุ่งสู่อุตสาหกรรมกาแฟพิเศษของชุมชนผู้ปลูกกาแฟตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง  (Tourism system management to promote specialty coffee industry  of coffee growers  communities  in Jae-sorn sub-district, Muang-pan district, Lampang  province)   คณะวิจัยจึงได้รวบรวมโฮมสเตย์ที่บ้านป่าเหมี้ยงหนึ่งในพื้นที่พัฒนาของโครงการขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์สำหรับการวางแผนเดินทางของนักท่องเที่ยวและเป็นการสนับสนุนด้านสื่อสารการตลาดให้กับชุมชนอีกทางหนึ่งด้วย

รวม ๑๕ โฮมสเตย์บ้านป่าเหมี้ยง

-     วังดอกเสี้ยว โทร.๐๘๕ ๗๖๐ ๗๕๓๙ , ๐๙๑ ๗๗๑ ๐๖๖๓  

-     เหรียญทองโฮมสเตย์ โทร.๐๙๗ ๙๗๑ ๙๑๐๒

-     หมอนใบชาโฮมสเตย์ โทร. ๐๘๖ ๔๓๘ ๗๕๗๖  

-     ปายดอยเอื้องดิน โทร.๐๘๖ ๑๙๕ ๙๖๘๒   

-     คนบนดอยโฮมสเตย์ โทร.๐๘๖ ๒๑๕ ๘๒๙๔ 

-     บ้านพญาวัง โทร.๐๘๑ ๗๘๓ ๔๑๗๖   

-     บ้านริมธารโฮมสเตย์ โทร.๐๙๑ ๘๕๙ ๓๐๗๐
- บ้านธารริมผาโฮมสเตย์ บ้านป่าเหมี้ยง โทร.๐๙๑ ๘๕๙ ๓๐๗๐



-     เฮือนเส.พล  


-     สายชล โฮมสเตย์ 

-     บ้านตอตะวัน โทร. ๐๖๓ ๑๒๔ ๑๘๕๐
  

นอกจากนี้ยังมีโฮมสเตย์ที่ร่วมโครงการผ่านการประสานงานอีกจำนวนหนึ่ง
*** ช่องทางการติดต่อโฮมสเตย์บ้านป่าเหมี้ยง ๐๘๑ ๘๘๓ ๓๑๑๖ ***

-     โฮมสเตย์ โรงเรียนบ้านป่าเหมี้ยง  

-     ชฎาธาร โฮมสเตย์  

-     สายชล โฮมสเตย์  

-     จันทร์วัน โฮมสเตย์  

-     ตี๋น้อย โฮมสตย์

สักครั้งหนึ่งเมื่อมาเยือนบ้านป่าเหมี้ยง ตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปางแห่งนี้  ท่านจะทราบได้เลยว่า”เที่ยวบ้านป่าเหมี้ยงครั้งเดียวไม่น่าพอ...ขอมาอีก”อย่างแน่นอน   

คนเล่าเรื่องและจัดทำภาพประกอบ : สุภาวดี เวศยพิรุฬ์ห์