ทำไมต้องกาแฟพิเศษ?

กาแฟธรรมดากับกาแฟพิเศษต่างกันอย่างไร คงไม่ใช่แค่ราคาที่มีค่าสูงกว่าเพราะกว่าจะเป็นกาแฟพิเศษได้ต้องใช้ใจในการผลิตและใช้ความรู้ในการปลูกไปจนถึงการแปรรูปและการมองหากาแฟพิเศษ ยังเป็นการมองหาเรื่องราวที่มาที่น่าเรียนรู้ของกาแฟอีกด้วย



กาแฟ คือ เครื่องดื่มที่มีการบริโภคเป็นอันดับ ๓ จะเป็นรองก็แต่เพียงน้ำและชา  การดื่มกาแฟเป็นวัฒนธรรมที่รับมาจากประเทศตะวันตก  ในแต่ละปีคนไทยบริโภคกาแฟเฉลี่ยคนละ ๑.๒ กิโลกรัม หรือ ราว ๓๐๐ แก้วต่อปี ขณะที่คนญี่ปุ่นบริโภคประมาณ ๔๐๐ แก้วหรือ ๓ กิโลกรัมต่อปี ส่วนที่ยุโรปบริโภคสูงถึง ๖๐๐ แก้วต่อปี  ซึ่งไทยมีมูลค่าการตลาดอุตสาหกรรมกาแฟสูงถึง ๓.๗-๓.๘ หมื่นล้านบาท(๒๕๖๒) ซึ่งในตลาดโลกการผลิตกาแฟสายพันธ์”อราบิกา”มีมากถึง ร้อยละ ๖๐ ส่วนอีก ร้อยละ ๔๐ เป็นปริมาณากรผลิตสายพันธ์”โรบัสต้า” ซึ่งต่างจากไทยที่”โรบัสต้า”มีการปลูกมากทางภาคใต้กว่า ร้อยละ ๗๙ ทีเหลือ คือ “อราบิกา”ที่ปลูกได้ดีที่ภาคเหนือ 

แต่ถึงกระนั้นผลผลิตเมล็ดกาแฟของไทยก็ยังไม่เพียงพอต่อการบริโภคเพราะสามารถปลูกได้เองและส่งออกประมาณ ๓,๙๐๐ ล้านบาท แต่มีการนำเข้า ๘,๐๔๔ ล้านบาท(๒๕๖๐) ดังนั้น ปริมาณผลิตที่ไม่มากหากไม่มีความพิเศษก็ย่อมสู้ราคากาแฟนำเข้าที่มีการผลิตในระดับอุตสาหกรรมไม่ได้ ประกอบกับ การดื่มกาแฟได้ถูกพัฒนาไปตามไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีความเฉพาะตัวมากยิ่งขึ้น   ส่งผลให้ความต้องการกาแฟคุณภาพในรสสัมผัสที่แตกต่างอย่าง“กาแฟพิเศษ”จากกระแสกลายเป็นความนิยมดื่มด่ำคุณค่าของนักดื่มกาแฟ

สหรัฐเป็นประเทศแรกที่เริ่มนิยม”กาแฟพิเศษ”ก่อนที่จะขยายไปญี่ปุ่น ออสเตรเลียไปจนถึงกลุ่มประเทศยุโรป  และพี่ไทยก็ไม่พลาดเช่นกัน การตื่นตัวของทั่วโลกทำให้แต่เดิมมีผู้สนใจ”กาแฟพิเศษ”เพียงร้อยละ ๑ ได้ขยับเป็นร้อยละ ๒๐ สำหรับในประเทศไทยการเติบโตเป็นไปอย่างต่อเนื่องเช่นกัน  ส่งผลให้”กาแฟพิเศษ”มีสัดส่วนถึง ร้อยละ ๑๐ ของตลาดกาแฟที่มีมูลค่าไม่น้อยกว่า ๒,๐๐๐ ล้านบาทเลยทีเดียว  ที่สำคัญ คือ ราคาที่มาพร้อมคุณภาพและถูกจริตของผู้ดื่มส่งผลให้อาราบิกาธรรมดาๆที่กิโลละ ๑๕๐-๑๙๐ บาทกระโดดไปถึงเท่าตัว

ดังนั้น “กาแฟพิเศษ” หรือ “Special Coffee”จึงไม่ใช่แต่เพียงการได้รับบรรยากาศของร้านกาแฟที่มีสไตล์สุดฮิฟพร้อมมุมถ่ายรูปเก๋ไก๋เท่านั้น  แต่เป็นการได้รสสัมผัสที่แตกต่างของเมล็ดกาแฟคุณภาพที่ผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดีตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายนำ้

-     ต้นน้ำ คือ การปลูก ดูแล เก็บเกี่ยวและคัดเสม็ดกาแฟ 
-     กลางน้ำ คือ การแปรรูปเมล็ดดิบที่ดีด้วยวิธีแห้ง(Dry Processing) หรือ วิธีเปียก(Wet Process or Wash Method) ไปจนถึงคั่วให้ได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์
-     ปลายน้ำ คือ การจัดจำหน่ายไปยังร้านกาแฟ หรือ เปิดร้านกาแฟของตนเอง หรือ การพัฒนาแบรนด์ของผู้ปลูกเอง  

การได้ดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟพิเศษพร้อมกับเรื่องราวของที่มาของกาแฟแต่ละพื้นที่ คือ สิ่งที่การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเส้นทางกาแฟพิเศษเกิดขึ้นใน ๒ ชุมชนของลำปาง ที่อำเภอเมืองปาน ที่บ้านป่าเหมี้ยงและบ้านแม่แจ๋ม ตำบลแจ้ซ้อนนี่เอง


คนเล่าเรื่องและจัดทำคลิป : สุภาวดี เวศยพิรุฬ์ห์
วิดีโอคลิปจาก Video by gziku from Pixabay (๔๐๑๖๖)

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น